Browse By

All posts by admin

วิคเตอร์ โยเคเรส คือจุดสำคัญคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

วิคเตอร์ โยเคเรส ในฤดูกาลที่การแข่งขันพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินทางเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญ หนึ่งในประเด็นที่แฟนบอลและนักวิเคราะห์ต่างพูดถึงมากที่สุดคือ “ตำแหน่งกองหน้าหมายเลข 9” ที่อาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญในการลุ้นแชมป์ของหลายสโมสร โดยเฉพาะชื่อของ วิคเตอร์ โยเคเรส (Viktor Gyökeres) ศูนย์หน้าชาวสวีเดนที่กำลังเป็นที่จับตามองในฐานะหนึ่งในดาวยิงที่ครบเครื่องที่สุดของยุโรปในเวลานี้ บทบาทของเขาในระบบการเล่นของทีมต้นสังกัดปัจจุบัน รวมถึงข่าวเชื่อมโยงกับสโมสรยักษ์ใหญ่ในอังกฤษอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี และอาร์เซน่อล ต่างสะท้อนให้เห็นชัดว่า “กองหน้าหมายเลข 9” อาจเป็นจุดชี้ชะตาของฤดูกาลนี้อย่างแท้จริง วิคเตอร์ โยเคเรส เกิดที่เมืองสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อปี 1998 เขาเริ่มต้นอาชีพฟุตบอลกับทีมเบรมโบล่าในบ้านเกิด ก่อนจะย้ายเข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสร บรอมมาปอจคาร์นา ซึ่งเป็นแหล่งบ่มเพาะนักเตะดาวรุ่งมากมายของสวีเดน ด้วยความสูง 187 เซนติเมตร โยเคเรสมีรูปร่างที่ได้เปรียบในจังหวะการดวลกลางอากาศ แต่สิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นกว่าใครคือความแข็งแกร่ง การเคลื่อนที่อันชาญฉลาด และสัญชาตญาณการจบสกอร์ที่เฉียบคม เส้นทางของเขาเริ่มเข้าสู่เวทีใหญ่เมื่อย้ายไปเล่นในอังกฤษกับ ไบรท์ตัน แอนด์

ลิเวอร์พูล สนใจ สเวน บ็อตมัน เป็นอีกทางเลือกในตำแหน่งเซนเตอร์

หนึ่งในข่าวที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากแฟนบอลพรีเมียร์ลีก คือรายงานว่า ลิเวอร์พูล (Liverpool) ได้หันไปพิจารณา สเวน บ็อตมัน (Sven Botman) กองหลังชาวดัตช์ของ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (Newcastle United) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญในการเสริมแผงหลังสำหรับฤดูกาลหน้า หลังจากสโมสรต้องเผชิญกับปัญหาผู้เล่นแนวรับบาดเจ็บบ่อย และความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งในตำแหน่งเซนเตอร์แบ็กให้กับทีม แหล่งข่าวใกล้ชิดสโมสรเปิดเผยว่า บ็อตมัน เป็นหนึ่งในรายชื่อที่อยู่ในลิสต์ของลิเวอร์พูลมาระยะหนึ่งแล้ว และเริ่มถูกพูดถึงอย่างจริงจังหลังทีมสเกาต์ของ “หงส์แดง” ส่งตัวแทนไปติดตามผลงานของนักเตะรายนี้ในหลายเกมของพรีเมียร์ลีก โดยเฉพาะช่วงที่นิวคาสเซิ่ลพบกับทีมใหญ่ระดับหัวตาราง ซึ่งบ็อตมันมักทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ทั้งในแง่ของการอ่านเกม การยืนตำแหน่ง และความนิ่งในการเล่นบอลกับเท้า สำหรับลิเวอร์พูล การเสริมแนวรับถือเป็นภารกิจสำคัญของฤดูกาลใหม่ เนื่องจากในฤดูกาลที่ผ่านมา ทีมต้องเจอกับปัญหานักเตะกองหลังเจ็บอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งหลังของซีซั่น ทั้ง อิบราฮิมา โกนาเต้, โจเอล มาติป และแม้แต่กัปตันทีมอย่าง เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ก็มีช่วงเวลาที่ต้องพักรักษาตัว ทำให้ เยอร์เก้น

เชลซี เห็นจุดอ่อนของ ลิเวอร์พูล จนทีมคว้าชัยได้สำเร็จ

ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดสุดดราม่าที่สนามแอนฟิลด์เมื่อคืนที่ผ่านมา เชลซี สามารถบุกไปคว้าชัยเหนือ ลิเวอร์พูล ได้อย่างสุดมันด้วยสกอร์ 2-1 ซึ่งนอกจากจะเป็นชัยชนะที่สำคัญต่อเส้นทางในฤดูกาลนี้แล้ว ยังเป็นบทพิสูจน์ถึงแนวทางฟุตบอลแบบใหม่ภายใต้การคุมทีมของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ที่เริ่มแสดงให้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจน หลังจบเกม มาร์ก กูกูเรย่า (Marc Cucurella) แบ็กซ้ายชาวสเปนของเชลซี ได้ออกมาเปิดเผยถึงเบื้องหลังความสำเร็จในเกมนี้ โดยยกเครดิตให้เจ้านายของเขา ที่สามารถวิเคราะห์และชี้ให้เห็น “จุดอ่อนเชิงแท็กติก” ของลิเวอร์พูลได้อย่างเฉียบคม จนทีมสามารถใช้ประโยชน์จากจุดนั้นเพื่อสร้างความได้เปรียบและเก็บสามแต้มสำคัญกลับออกมาได้ ชัยชนะของเชลซีเหนือทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เกิดจากการวางแผนที่ละเอียดในทุกมิติ เอ็นโซ่ มาเรสก้า ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียนที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งไม่นาน สามารถอ่านเกมของลิเวอร์พูลได้อย่างทะลุปรุโปร่ง โดยเฉพาะในส่วนของ “พื้นที่ระหว่างฟูลแบ็กกับเซ็นเตอร์” ซึ่งเป็นโซนที่คล็อปป์ใช้การเติมเกมของแบ็กขวาและแบ็กซ้ายอย่างหนักอยู่เสมอ ทำให้เกิดช่องว่างด้านหลังที่สามารถโจมตีได้หากจับจังหวะถูก มาร์ก กูกูเรย่า ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “โค้ชของเราทำการบ้านอย่างละเอียดมาก เขาอธิบายให้เราทุกคนเห็นว่า พื้นที่ด้านหลังแบ็กของลิเวอร์พูลคือจุดที่เราสามารถเล่นงานได้ เขาแสดงภาพให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพื้นที่ไหนที่ควรบุก และวิธีการเคลื่อนบอลเข้าไปตรงจุดนั้นควรทำอย่างไร” คำพูดของแบ็กซ้ายรายนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงการเตรียมตัวก่อนเกมที่ยอดเยี่ยม

ฟิล โฟเด้น จะต่อสัญญาใหม่กับสโมสรอย่างแน่นอน

การรักษานักเตะระดับดาวไว้กับสโมสรถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของทุกทีมใหญ่ในยุโรป และในกรณีของ ฟิล โฟเด้น (Phil Foden) กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (Manchester City) เรื่องราวนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเจรจาสัญญาธรรมดาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างนักเตะกับสโมสรที่หล่อหลอมเขามาตั้งแต่วันแรกของชีวิตในวงการฟุตบอล และการตัดสินใจครั้งใหม่นี้ก็ยืนยันได้ชัดว่า โฟเด้นคือ “หัวใจของซิตี้” ที่จะยังคงอยู่ต่อไปในระยะยาว ฟิล โฟเด้น เกิดเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2000 ที่เมืองสต็อกพอร์ต ประเทศอังกฤษ เขาเติบโตในครอบครัวที่หลงใหลในฟุตบอล และตั้งแต่ยังเด็ก เขามีเพียงทีมเดียวในใจคือ “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” สโมสรบ้านเกิดที่เขาเชียร์มาตลอด เด็กชายฟิลเข้าร่วมอะคาเดมีของทีมตั้งแต่อายุเพียง 8 ขวบ และถูกจับตามองว่าเป็นหนึ่งในเพชรเม็ดงามที่สุดของระบบเยาวชนในยุคนั้น ความสามารถที่โดดเด่นเกินวัย ทั้งเทคนิค การมองเกม และการควบคุมบอลในพื้นที่แคบ ทำให้เขาก้าวกระโดดเหนือเพื่อนรุ่นเดียวกันอย่างรวดเร็ว ในปี 2017 เป๊ป กวาร์ดิโอลา

บูคาโย่ ซาก้า หนึ่งในนักเตะ ทำประตูครบ 100 ประตู

หนึ่งในข่าวที่แฟนบอลทั่วโลกให้ความสนใจในช่วงนี้ คือการที่ บูคาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka) ปีกดาวรุ่งของ อาร์เซน่อล ก้าวเข้าสู่ทำเนียบ “นักเตะอายุน้อยที่มีส่วนร่วมกับประตูในพรีเมียร์ลีกครบ 100 ประตู” ได้สำเร็จ นับเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทั้งในเชิงสถิติและการพัฒนาในเส้นทางอาชีพของเขา ซึ่งสะท้อนถึงความต่อเนื่อง ความทุ่มเท และความสามารถระดับสูงที่สอดคล้องกับยุคฟุตบอลสมัยใหม่ จากอคาเดมี่สู่หัวใจของอาร์เซน่อล บูคาโย่ ซาก้า เกิดเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2001 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เขาเข้าสู่ระบบเยาวชนของอาร์เซน่อลตั้งแต่อายุยังน้อย ก่อนจะได้รับโอกาสขึ้นชุดใหญ่ในปี 2018 ภายใต้การดูแลของ อูไน เอเมรี่ และต่อมาถูกพัฒนาอย่างเต็มตัวโดย มิเกล อาร์เตต้า ซาก้าเริ่มต้นจากการเป็นปีกริมเส้นที่มีหน้าที่เปิดบอลและสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนร่วมทีม แต่เมื่อเวลาผ่านไป เขากลายเป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบมากขึ้น ทั้งยิงประตูได้เอง จ่ายบอลแม่นยำ และมีวิสัยทัศน์ในเกมที่โดดเด่น ความหลากหลายนี้ทำให้เขาเล่นได้ทั้งปีกขวา ปีกซ้าย และแม้แต่ตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ในบางนัด เขาไม่เพียงแค่เป็น

ชาบี อลอนโซ่ เผยว่า คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เจ็บข้อเท้าจากเกมชนะบียาร์เรอัล 3-1

เอ็มบั๊ปเป้ เป็นหนึ่งในแกนหลักแนวรุกของ มาดริด ตั้งแต่เปิดฤดูกาล ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น และการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นย่อมสร้างแรงกดดันให้ทีม ต้องการความรอบคอบในการบริหารจัดการนักเตะรายนี้ ในศึกลา ลีกา นัดที่ เรอัล มาดริด เผชิญหน้ากับ บียาร์เรอัล ด้วยสกอร์ 3-1 มีรายงานสำคัญเรื่องอาการบาดเจ็บที่อาจส่งผลต่อทิศทางซีซันของทีม เมื่อ ชาบี อลอนโซ่ กุนซือของ “ราชันชุดขาว” เปิดเผยว่า คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าในช่วงการแข่งขัน และตอนนี้กำลังอยู่ในกระบวนการประเมินอาการอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจใด ๆ อาการบาดเจ็บและคำยืนยันจากออลอนโซ่หลังจบเกมกับ บียาร์เรอัล อลอนโซ่ ยอมรับว่าฝ่ายแพทย์ของทีมได้ตรวจพบว่าเอ็มบั๊ปเป้มีความไม่สบายบริเวณข้อเท้า โดยเป็นอาการ “ข้อเท้าพลิกเล็กน้อย” ในแถลงหลังเกม อลอนโซ่กล่าวว่า “คีลิยัน มีความรู้สึกไม่สบายที่ข้อเท้า เราจะต้องประเมินร่วมกับฝ่ายทีมชาติเพื่อดูว่าอาการจะเป็นอย่างไร” เขายังเน้นว่า ณ ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ว่าเอ็มบั๊ปเป้จะถูกเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสในโปรแกรมคัดเลือกฟุตบอลโลกหรือไม่ เพราะอาการยังไม่แน่ชัด และต้องรอการประเมินอย่างเป็นทางการต่อไป อลอนโซ่ยังกล่าวถึง

นิวคาสเซิ่ล จับจ้องสถานการณ์เมนูกับแมนยู

พื้นหลังของสถานการณ์: ทำไม นิวคาสเซิ่ล ถึงจับตาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อพูดถึงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการเคลื่อนไหวของแต่ละสโมสรยักษ์ใหญ่มีอิทธิพลต่อวงการฟุตบอลอังกฤษโดยรวม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในทีมที่มักตกเป็นเป้าสายตา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฟอร์มการเล่น การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม หรือแม้แต่การซื้อขายนักเตะ ขณะเดียวกัน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งภายใต้การบริหารของกลุ่มทุนซาอุดิอาระเบีย ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรที่มีอำนาจการเงินสูงและมีเป้าหมายในการสร้างทีมเพื่อต่อกรกับบิ๊กโฟร์ในระยะยาว การจับจ้องของนิวคาสเซิ่ลในครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการเฝ้ามองเฉย ๆ แต่สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การเสริมทัพที่มีการวางแผนอย่างรอบคอบ สโมสรต้องการหานักเตะที่มีทั้งประสบการณ์ ความสามารถ และความเป็นผู้นำ ซึ่งตรงกับจุดอ่อนบางประการของทีมในปัจจุบัน โดยเป้าหมายสำคัญอยู่ที่นักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อาจไม่ได้รับโอกาสลงสนามสม่ำเสมอ หรือกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนกับต้นสังกัด การที่นิวคาสเซิ่ลหันมามองแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังสะท้อนให้เห็นถึงการยกระดับมาตรฐานของตัวเอง ในอดีต “สาลิกาดง” มักเป็นทีมที่ต้องขายนักเตะเก่ง ๆ เพื่อความอยู่รอด แต่ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในยุคที่สามารถใช้ศักยภาพทางการเงินดึงผู้เล่นชื่อดังจากสโมสรใหญ่มาร่วมทีมได้ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้พวกเขามีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรชั้นนำอย่างแท้จริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อีกทั้งยังต้องยอมรับว่า ความเชื่อมโยงระหว่างสองทีมนี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองก็กำลังอยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่ภายใต้กุนซือรุ่นใหม่

คอนไซเซา และ เชโกรวา: อาวุธของยูเวนตุสก่อนศึกใหญ่

รายละเอียดเล็กน้อยสามารถเปลี่ยนผลลัพธ์ของเกมได้เสมอ สำหรับ ยูเวนตุส ข่าวดีล่าสุดคือการที่สองตัวรุกริมเส้นอย่าง ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา และ เอดอน เชโกรวา ฟิตสมบูรณ์ทันเวลา และถูกใส่ชื่อในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จะดวลกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คู่แข่งจากบุนเดสลีกาที่ขึ้นชื่อเรื่องเกมรุกดุดันและความเร็วจัดจ้าน การได้สองแข้งริมเส้นกลับมาทำให้ยูเวนตุสมีมิติในการเล่นเกมรุกที่หลากหลายขึ้น ทั้งการลากเลื้อย การเจาะริมเส้น และการสร้างความกดดันใส่แนวรับดอร์ทมุนด์ซึ่งบางครั้งยังมีปัญหาในเกมรับ การกลับมาของพวกเขาไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มตัวเลือก แต่ยังเป็นการคืนความมั่นใจให้กับทั้งโค้ชและแฟนบอลที่กำลังคาดหวังผลงานอันยิ่งใหญ่ในเวทียุโรป โปรไฟล์ของฟรานซิสโก้ คอนไซเซา: พรสวรรค์โปรตุเกสที่พร้อมสร้างความแตกต่าง ฟรานซิสโก้ คอนไซเซา ลูกชายของเซร์คิโอ คอนไซเซา อดีตกองกลางทีมชาติโปรตุเกส ผู้มีชื่อเสียงในฐานะกุนซือปอร์โต้ คือหนึ่งในปีกดาวรุ่งที่ถูกจับตามองมากที่สุดในยุโรป จุดเด่นของเขาคือ ความเร็วและการเลี้ยงบอลที่เฉียบคม สามารถสร้างความได้เปรียบในสถานการณ์ดวลตัวต่อตัว คอนไซเซ้ามักเล่นในตำแหน่งปีกขวา แต่สามารถโยกไปซ้ายได้ตามแท็กติก จุดแข็งของเขาคือการตัดเข้าในเพื่อยิงประตู หรือเปิดบอลให้กองหน้าที่อยู่ในกรอบเขตโทษ การเคลื่อนไหวที่ฉับไวทำให้คู่แข่งตามจับยาก และยังช่วยดึงกองหลังออกจากตำแหน่งเพื่อเปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมทีม สำหรับยูเวนตุส การมีคอนไซเซาอยู่ในสนามหมายถึงการมี ตัวพลิกเกม

เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ อาจพลาดเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เยือนอาแจ็กซ์

การขาดหายไปของ เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ไม่ใช่แค่การขาดนักเตะตัวหลัก แต่เป็นการสูญเสียหัวใจสำคัญของอินเตอร์ มิลานในทั้งมิติแท็กติกและจิตวิทยา เลาตาโร่ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นกองหน้าตัวความหวัง แต่ยังเป็นกัปตันทีม ผู้สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นคนที่มีส่วนโดยตรงกับแทบทุกประตูสำคัญในฤดูกาลนี้ ข่าวว่าเขามีโอกาสพลาดเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดเยือน อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จึงสร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งในห้องแต่งตัว อินเตอร์ มิลาน และแฟนบอลทั่วโลก เกมกับอาแจ็กซ์ถือว่าไม่ง่ายอยู่แล้ว เพราะทีมดัตช์มีชื่อเสียงด้านเกมรุกที่ดุดันและการเล่นในบ้านที่เต็มไปด้วยแรงกดดัน การไม่มีเลาตาโร่อาจทำให้สมดุลของอินเตอร์เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทั้งในแง่ของการประสานงานกับคู่หูในแดนหน้า การเชื่อมบอลจากแดนกลาง และการกดดันแนวรับคู่แข่งตั้งแต่แดนบน นี่คือสถานการณ์ที่ทัพเนราซซูรี่ต้องหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วน ความหมายของเลาตาโร่ต่ออินเตอร์ มิลาน เลาตาโร่ มาร์ตีเนซ ไม่ได้เป็นแค่กองหน้าที่ทำประตูได้มาก แต่เขาคือ ศูนย์กลางเกมรุก ของอินเตอร์อย่างแท้จริง ฤดูกาลนี้เขามีสถิติการยิงประตูที่โดดเด่น ติดท็อปของกัลโช่ เซเรีย อา และยังมีส่วนร่วมโดยตรงกับการสร้างสรรค์เกมให้เพื่อนร่วมทีม สิ่งที่ทำให้เลาตาโร่แตกต่างจากกองหน้าทั่วไปคือความครบเครื่อง เขาสามารถเล่นเป็นตัวจบสกอร์ในกรอบเขตโทษได้อย่างเฉียบขาด ขณะเดียวกันก็ถอยลงมาเชื่อมเกม รับบอลจากกองกลาง และลากบอลขึ้นไปเองได้

ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง เปิดเผยเหตุผลที่ปล่อยตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า

เมื่อข่าวแพร่สะพัดว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแม็ง (PSG) ตัดสินใจปล่อยตัว จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ออกไป มันไม่ใช่เพียงการเคลื่อนไหวในตลาดนักเตะธรรมดา แต่เป็นการตัดสินใจที่สั่นสะเทือนทั้งวงการฟุตบอลยุโรป เพราะนายทวารชาวอิตาเลียนรายนี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่เก่งที่สุดในโลก และยังอายุน้อยพอที่จะครองเส้นทางการเฝ้าเสาได้อีกยาวนาน สิ่งที่แฟนบอลสงสัยคือ เหตุใด PSG ถึงยอมเสียผู้รักษาประตูที่ถือเป็นอนาคตของทีม ทั้งที่เพิ่งคว้ามาแบบฟรีค่าตัวเมื่อไม่กี่ปีก่อน และยังมีบทบาทสำคัญในการพาทีมลุยในเวทียุโรป คำตอบนั้นไม่ใช่เพียงเหตุผลเดียว แต่เป็นการผสมผสานของหลายปัจจัย ทั้งด้านแท็กติก การบริหารจัดการทีม และปัจจัยทางการเงิน เหตุผลเชิงแท็กติก: ความไม่ลงตัวในระบบการเล่น หนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ PSG ต้องตัดสินใจปล่อยดอนนารุมม่าออกไปคือ ความไม่ลงตัวในระบบแท็กติก ผู้รักษาประตูในฟุตบอลสมัยใหม่ไม่ได้ทำหน้าที่เซฟลูกยิงเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องมีบทบาทในการออกบอลจากแดนหลัง เพื่อช่วยสร้างเกมรุกตั้งแต่ต้น ซึ่งตรงนี้เองที่ดอนนารุมม่ามักถูกวิจารณ์ แม้เขาจะเป็นผู้รักษาประตูที่มีร่างกายสูงใหญ่ ปฏิกิริยาเร็ว และการเซฟที่น่าทึ่ง แต่ทักษะการใช้เท้าและการจ่ายบอลสั้นเพื่อเชื่อมเกมยังไม่ลื่นไหลพอสำหรับระบบการเล่นที่ PSG ต้องการ โค้ชและฝ่ายบริหารของสโมสรจึงมองว่าทีมต้องการผู้รักษาประตูที่สามารถมีส่วนร่วมกับการครองบอลในสไตล์ “build-up” มากกว่า เมื่อพิจารณาจากคู่แข่งในยุโรปอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีเอแดร์ซอน